|
||||||||||||||||
เมล็ดกาแฟดิบที่นำมาคั่วเป็นเครื่องดื่มกาแฟ
เพื่อความรู้ที่ก้าวลึกๆเข้าไปสู่เมล็ดกาแฟ สำหรับท่านที่กำลังศึกษาหา
ความรู้จากไม้ยืนต้นที่เป็นไม้เมืองหนาวของกาแฟ ที่ให้ผลผลิตเป็นผล (Cherry-Perry)
ซึ่งมีเมล็ดแข็ง (Seed) อยู่ภายใน และ ส่วนของเมล็ดกาแฟ
นี้เอง ที่มนุษย์ได้นำมาใช้เป็นประโยชน์ โดยการนำไปผ่านความร้อน
จนกระทั่งเมล็ดเป็นสีน้ำตาลเมื่อนำมาบดเป็นผงและชงด้วยน้ำร้อน
ก็จะได้เครื่องดื่มกาแฟที่มีรสเข้มและกลิ่นหอม
ผลสดของกาแฟในประเทศเราที่รู้จักกัน 2 ชนิด คือโรบัสต้า และ อราบิก้า
มีลักษณะทรงกลมรีแบบทรงไข่ (Oval Shape) แต่มีความแตกต่างกันที่ขนาด
ของผลคือ ผลสดกาแฟอราบิก้า มีขนาดใหญ่กว่าโรบัสต้า และ มีชั้นเนื้อบางๆ
หนากว่าโรบัสต้า ผลสดของกาแฟโรบัสต้ามีรูปทรงกลมกว่า เมล็ดเล็กกว่า
ผลสดของกาแฟประกอบด้วยส่วนต่างๆดังนี้คือ
เปลือกผล (Exocarp=Skin) มักมีสีแดง แต่กาแฟบางชนิด/บางสายพันธุ์
มีเปลือกผลสีแดงสด แดงเข้มเลือดหมู สีเหลือง และ สีส้มอยู่บ้าง
เนื้อบางๆสีใส หรือ สีเหลืองอ่อน (Mesocarp=Pulp) ที่อยู่ใต้เปลือกผล
และ หุ้มรอบกะลากาแฟ มีรสหวานเล็กน้อยเมื่อผลสุก
กะลา (Endocarp=Parchment) เป็นส่วนที่อยู่ใต้เนื้อบางใส
กะละเป็นส่วนที่มีความเหนียว และ แข็งหุ้มเมล็ดไว้ภายใน
เยื่อบางๆหุ้มเมล็ด (Spermoderm/Testa = Silver skin)
เป็นส่วนเยื่อบางๆสีเหลืองอ่อนติดเมล็ด
เนื้อเมล็ด (Endosperm=Seed/Bean) อยู่ภายใต้กะลา ภายในเมล็ดมี
คัพภะ-(Embryo) ใกล้ฐานของเมล็ด ส่วนของเมล็ดนี้เองที่นำมาใช้ประโยชน์
โดยการนำมาคั่วด้วยความร้อนจนเกิดสีน้ำตาล มีกลิ่นหอม เมื่อนำมาบด
ให้เป็นผงละเอียดแล้วชงด้วยน้ำร้อนทำเป็นเครื่องดื่มกาแฟ
โดยทั่วไปในหนึ่งผลของกาแฟสด มักมีเมล็ดที่อยู่ภายในกะลารูปร่างกลมรี
ประกบกันอยู่ 2 เมล็ด ส่วนของเมล็ดทีประกบกันอยู่นั้น เมื่อแยกออกจากกัน
จะพบว่าด้านที่ประกบกันอยู่หรือด้านในของเมล็ด มีลักษณะแบน และ
มีร่องของรอยแยกตรงกลางของเมล็ด (Center cut) ส่วนอีกด้านหนึ่ง
ของเมล็ดมีความโค้งนูนแบบหลังเต่า แต่บางครั้งในขั้นตอนของการเจริญพัฒนา
ของเซลหลังจากการผสมพันธุ์อาจจะมีการสร้างเมล็ดที่แตกต่างกัน
ไปบ้าง ได้แก่เมล็ดปกติ มีลักษณะเป็นซีกประกบกัน 2 ซีก มีเนื้อด้านข้าง
และร่องกลาง
เมล็ดกลม (Peaberry) มีหนึ่งเมล็ดในหนึ่งผล เรียกว่ากาแฟเมล็ดโทน
เป็นเมล็ดที่จัดอยู่ในประเภทคุณภาพพิเศษ เป็นเหตุผลของผู้คั่วที่เชื่อว่า
เป็น เมล็ดกาแฟที่มีการสะสมอาหารอย่างเต็มที่ จะมีปริมาณ 10-15 %
ของกาแฟทั้งหมด
เมล็ดหูช้าง (Elephant ears) เป็นเมล็ดขนาดใหญ่แต่มีรอยแยก
ด้านบนโค้งนูนทำให้แยกชิ้นส่วนออกจากกันได้ง่าย มีลักษณะคล้ายใบหูช้าง
เมล็ดซีก ในหนึ่งผลมีเมล็ดประกบกันอยู่ 3 ชิ้น เป็นเมล็ดที่ถูกแยกไว้รวมกับ
เมล็ดแตกหัก ที่มีคุณภาพและราคารองลงไปจากเมล็ดธรรมดา
(เรื่อง-เนื้อหาจาก หนังสือสรรสาระกาแฟ ของ อ.พัชนีฯ15.พค52)
"การเรียกชื่อกาแฟ ที่ยังสับสนในบ้านเรา"
ในวงการกาแฟบ้านเราวันนี้ ยังมีเรื่องความสับสนในการเรียกขาน
ชื่อต่างๆที่ได้ตั้งไว้เรียกขานกันเป็นความเข้าใจ และ สื่อความหมาย
มากมาย
หลายเรื่องผู้ที่ได้ศึกษาเรียนรู้และเข้าใจแล้วก็เป็นเรื่องธรรมดา
แต่ยังมีผู้คนนอกวงการไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค และ ผู้ขายกาแฟ
บางแห่งในท้องถิ่นหรือบางชนบทที่ยังใช้ชื่อ เรียกชื่อกาแฟ
ด้วยความไม่เข้าใจ จึงเกิดความสับสนขึ้นอยู่อีกมาก
"เอากันไม่ต้องไกล ร้านชานเมืองเชียงใหม่ ก็คงไม่ใช่บ้านนอก-บ้านนา
อะไรนักตั้งโถเมล็ดกาแฟคั่วเป็นแถวเรียงไว้ มีชื่อเขียนติดโถกาแฟไว้
มีทั้ง กาแฟบลูเมา-เท็น บราซิล-ชันโตส ม๊อกค่า แถมด้วยกาแฟ
คาปูชิโน่ เอสเพรสโซ่อีก..งง."
ยังงี้ไปเจอเอาคนรุ่นเก่า ที่ไม่ค่อยออกบ้านไปไหน รู้จักแต่กาแฟร้อน-
กาแฟเย็นโอเลี้ยง-โอยั๊ว ก็ยิ่งงง.งวย สับสนกันไปใหญ่ เอาแค่ลุงเองขนาดว่าพอรู้
ก็ยังสับสนณ พศ.นี้แล้วยังมีร้านกาแฟสด ที่เค้าไม่รู้จริงๆ หรือว่าไปตาม
ความเข้าใจเอาเอง
"แล้วคนกินกาแฟเองที่ไม่รู้เรื่องกาแฟ เค้าเข้าใจว่ายังไง สั่งยังไง"
กาแฟทิปปิก้า
กาแฟคาติมอร์คอกาแฟที่รู้จัก และ เข้าใจไปถึงดวงดาวแล้ว ก็คงได้แต่นั่งยิ้ม..
เอาว่าไง-ว่ากันเพราะไอ้ชื่อต่างๆในวงการกาแฟสด เนี่ยมันยุ่งยาก-
มากมายจริงครับเอาแค่ชื่อกาแฟโรบัสต้า และ อราบิก้า มันก็ต่างกันแล้ว
กาแฟอราบิก้าเองก็ยังมีชื่อแยกแตกต่างไปอีก เริ่มจาก..
๐ชื่อสายพันธุ์จากแหล่งปลูก ประเทศต่าง
๐ ชื่อเรียกตามระดับการคั่ว ในระดับต่างๆ และ
๐ ชื่อเรียกตามสูตรและวิธีการชง
ชื่อตามสายพันธุ์:- ทิปปิก้า( C.arabica var.Typica)
สายพันธุ์ดั่งเดิมต้นกำเนิดของกาแฟอราบิก้าอื่นๆ ลักษณะมีข้อห่าง
ใบขนาดเล็กสีเขียวเข้ม ยอดสีทองแดง
เบอร์บอน (Bourbon) กลายพันธุ์จากทิปปิก้า ลักษณะต้นไม่สูงมาก
มีข้อถี่ ยอดอ่อนสีเขียว ผลสุกช้า ผลผลิตสูงกว่าและคุณภาพรสชาติ
หอมกว่าทิปปิก้า
บลูเมาเท่น (Blue Mountain) กลายพันธุ์จากทิปปิก้า ปลูกบนยอด
เขาสูงในจาไมก้า มีคุณภาพและรสชาติกลิ่นหอมเป็นเลิศ
เป็นกาแฟอันอับหนึ่งของโลก
คาทูรา (Caturra) แหล่งกำเนินในบราซิล เป็นกาแฟกลายพันธุ์
จากเบอร์บอนโคน่า (Kona)กลายพันธุ์มาจากทิปปิก้า นำมาจากแหล่ง
เดิมในบราซิล เอามาปลูกบนดินฟูเขาไฟของหมู่เกาะฮาวายของสหรัฐอเมริกา
เป็นกาแฟคุณภาพรสชาติกลิ่นหอมอันดับหนึ่งเช่นกัน
จึงเป็นอีกพันธุ์หนึ่งที่มีราคาสูงมาก
เค้นท์ (Kent) เป็นพันธุ์ที่ได้รับการคัดเลือกจากต้นกาแฟในแคว้น
ไมชอร์ของประเทศอินเดีย เป็นกาแฟที่ได้รับการยอมรับในคุณภาพ
คาติมอร์ (Catimor) เป็นกาแฟลูกผสมข้ามสายพันธุ์ของไทย
ระหว่างคาทูร่า -กับ ไฮบริโด เดอ ติมอร์ เจริญเติมโตเร็วแข็งแรงในพื้นที่ภาคเหนือไทย
ผลผลิตสูงมีความต้านทานต่อโรคราสนิมและความแห้งแล้งดีในพื้นที่ประเทศเรา
กาแฟที่นำมาคั่วเพื่อนำไปชงเป็นเครื่องดื่ม ก็ได้แยกขนาด
ความเข้ม-อ่อนของการคั่วไว้แล้วก็มีชื่อเรียกเป็นที่เข้าใจกัน
ตามระดับดังนี้:-
คั่วขนาดอ่อน LightRoast - Cinnamon - American
คั่วขนาดกลาง MediumRoast - Fullcity - Vienna
คั่วเข็ม Espresso - Itilan - Frenchกาแฟคั่ว-บด นำไปชงในเครื่อง Espresso แล้วก็ได้ตั้งชื่อเรียก
กันตามสูตร
การชงและส่วนผสมเช่น Cappucino /Mocha Cafe'latta
Amerricano ฯลฯ
ปัจจุบันได้เพิ่มชื่อเรียกขานตามสูตรการชงขึ้นมาอีกมากมาย
จนเป็นที่ลายหู-ลายตา กันไปหมดแม้แต่ผู้เขียนเอง ก็ยังงงงวยเหมือนกันเพราะเป็นคนรุ่นเก่า
"เรื่องเหล่านี้ควรเป็นหน้าที่ของผู้ขาย ที่ควรจะชี้แนะสำหรับคอกาแฟ
ที่ยังไม่เข้าใจ มากกว่าการปฏิบัติดังกล่าวข้างต้น หรืออาจจะเป็นเพราะว่าผู้ขายกาแฟร้านเล็ก-ร้านน้อย ก็ยังไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง
เหมือนกัน"